จากกรณีมีการแชร์บทความในโลกโซเชียลออนไลน์อย่างแพร่หลาย เกี่ยวกับขนมปังเนื้อนุ่ม สอดไส้คัสตาร์ดรสกล้วย ซึ่งในเรื่องราวนั้น มีกล่าวพาดพิงไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ว่าได้สูตรจากซัพพลายเออร์รายหนึ่ง ที่เป็นเพียงพนักงานออฟฟิศ ทั้งยังอ้างว่าได้มีการเจรจาธุรกิจและเปิดเผยสูตรขนมอย่างละเอียด และมีการตกลงว่าจะสั่งออเดอร์หลายพันชิ้นด้วย ต่อมา พนักงานออฟฟิศรายนี้จึงตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อกำลังการผลิต แต่สุดท้ายบริษัทยักษ์ใหญ่กลับยกเลิกออเดอร์ และทำขนมรสกล้วยวางจำหน่ายเสียเอง
ทางทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ติดต่อไปยัง พนักงานผู้กล่าวอ้างในโลกออนไลน์ เจ้าของแบรนด์ขนมปังรสกล้วยเมืองไทย ซึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง ได้รับคำตอบว่า เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจของเธอและบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ถูกเขียนลงบล็อกดังกล่าวนั้น เป็นความจริงแท้แน่นอน เดิมทีเจ้าของขนมปังรสกล้วยเมืองไทยนั้น เป็นพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเงินเดือนมากมายแต่อย่างใด จึงตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจขนมเล็กๆ แต่อยู่ๆ กลับมีบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งมาวาดฝันธุรกิจอันรุ่งเรืองให้
เรื่องราวแบ่งปัน โตเกียวบานาน่า เมืองไทย แบบมีกล้วยอยู่จริงๆ ที่แลกมาด้วยน้ำตา |
รสช็อคโกแลตจะอร่อยแค่ไหนต้องลองชิมนะ |
ส่วนกรณีที่มีการเขียนเรื่องราวดังกล่าวผ่านบล็อกๆ หนึ่งนั้น เจ้าของแบรนด์ขนมปังรสกล้วยเมืองไทยที่ตกเป็นข่าว แจงว่า ตนไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความขึ้นมา และไม่มีความคิดที่จะเขียนด้วย เนื่องจากกลัวว่าธุรกิจจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต ซึ่งเวลาที่ตนไปสัมมนาไม่ว่าจะที่ใดๆก็ตาม ก็จะพบเห็นเจ้าของธุรกิจรายเล็กต่างๆ อยากให้สินค้าของตัวเองเข้าไปในร้านค้าปลีกชื่อดัง ตนจึงเล่าประสบการณ์ที่พบเจอมากับตัวเกี่ยวกับบริษัทที่ว่านี้ให้แก่เพื่อนๆ ได้ฟัง
เรื่องราวระหว่างธุรกิจเล็ก กับบริษัทยักษ์ใหญ่ |
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรสชาติระหว่างขนมที่ซัพพลายเออร์คิดค้นขึ้น กับขนมปังเนื้อนุ่ม สอดไส้คัสตาร์ดรสกล้วยที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีรสชาติเหมือนกันหรือไม่ เธอระบุว่า "ไม่ แต่ใกล้เคียง เขาทำออกมาไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ตัวแป้ง ความนุ่มมีความคล้ายคลึงกันอยู่ ส่วนเรื่องที่มีคนถามเข้ามาว่า จะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมอะไรบ้างหรือไม่ คงตอบได้ว่า คงไม่แน่นอน เพราะเราเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ แต่จะไปริอ่านสู้กับยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้อย่างไร เราไม่มีทางสู้เขาได้แน่ๆ วินาทีที่เขายกเลิกออเดอร์ทั้งหมด ตอนนั้นเรากำลังวางแผนเรื่องโรงงานกับเจ้าหน้าที่ของเขาอยู่ ซึ่งพอได้รู้อย่างนั้น เราทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ เหมือนล้มทั้งยืน"
มีหลายรูปเพิ่มความน่ารับประทานขึ้นอีก |
อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา หลังจากมีการแชร์เรื่องดังกล่าวอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก บมจ.ซีพีออลล์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
เรียน ลูกค้าที่เคารพทุกท่านค่ะ
จากกรณีบล็อกของคุณ @assuming ชื่อว่า "แบ่งปัน โตเกียวบานาน่าไทย แบบมีกล้วยอยู่จริงๆ ที่แลกมาด้วยน้ำตา" ในเว็บไซต์ www.oknation.net ซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบดังนี้
1. บริษัทได้สอบถามไปยังผู้ผลิตดังกล่าว ซึ่งผู้ผลิตได้แจ้งกับบริษัทว่าไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความนี้ ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งต่อมาคุณ @assuming ได้ยอมรับในบล็อกว่าตนเป็นผู้เขียน ไม่ใช่เจ้าของผู้ผลิตและได้ลบบทความดังกล่าวออกจากบล็อกแล้ว
2. บริษัทขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขนมปังรสกล้วยของบริษัทที่ได้ถูกพาดพิงนั้นไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจาก suppliers รายใด และมีกรรมวิธีการผลิตเฉพาะที่แตกต่าง พัฒนาโดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง ซึ่งมีอยู่กว่า 200 คน
แถลงการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ |
3. บริษัทยืนยันว่าได้มีการเจรจาธุรกิจกับซัพพลายเออร์ขนมรสกล้วยเจ้านี้อยู่จริง และขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนเจรจาและพัฒนาสินค้าร่วมกัน โดยมีข้อตกลงจะนำขนมนี้ไปวางที่ร้านคัดสรรเบเกอรี่ ซึ่งเป็นร้านขนมปังกาแฟระดับพรีเมี่ยมที่มีอยู่ 200 กว่าสาขาทั่วประเทศ ภายในร้าน 7-11 ส่วนขนม "เลอแปง บานาน่า" เค้กสอดไส้คัสตาร์ด รสกล้วยของบริษัทนั้น เป็นสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไปวางจำหน่ายใน 7-11 เช่นกัน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริง และขอความกรุณาท่าน หยุดเผยแพร่บทความของคุณ @assuming เพราะเข้าข่ายการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญา สำนักสื่อสารองค์กร บมจ.ซีพี ออลล์
อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ก็เป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป...
CR : http://www.thairath.co.th/content/494765
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น