สุดอาลัย อรรถพล ปุษปาคม หรือ"โค้ชแต๊ก"

บรรยากาศภายในวัด

        "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย และผู้ฝึกสอนทีม เพื่อนตำรวจ จากไปอย่างสงบด้วยอาการปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ในวัย 52 ปี ด้านภรรยารับตั้งตัวไม่ทัน เผยยังไม่ทันได้ล่ำลา ด้าน สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ผู้บริหารทีม เผยจะดูแลค่ารักษาพยาบาลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมดูแลครอบครัวแทน

พวงหรีดจากคนในวงการ

    
        เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 โรงพยาบาลพระรามเก้า ออกแถลงข่าวการเสียชีวิตของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมเพื่อนตำรวจ เมื่อเวลา 04.41 น. ของวันเดียวกัน ด้วยอาการปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนมีปัญหา ส่งผลให้การทำงานของปอดล้มเหลว และจากไปอย่างสงบ หลังจากถูกนำตัวส่งตัวเข้ารักษาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา
     

สื่อแห่สัมภาษณ์ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตดาวยิงทีมชาติไทย

        หลังจากนั้นมีการนำร่างของ "โค้ชแต๊ก" มาตั้งเพื่อทำพิธีทางศาสนาที่วัดธาตุทอง ท่ามกลางคนในครอบครัว "ปุษปาคม" พร้อมด้วยบุคคลในวงการฟุตบอลไทย อาทิ นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี, นายพิเชษ มั่นคง อดีตประธานสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี, นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจ, นายชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย, "เดอะ ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย, "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กัปตันทีม เพื่อนตำรวจ เป็นต้น

พิธีรดน้ำศพ

     
        ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้าท่ามกลางความอาลัยต่อการจากไปของยอดโค้ชรายนี้ โดยนางวรรณดี ปุษปาคม ภรรยาคู่ทุกข์ กล่าวรู้สึกตกใจกับการสูญเสียครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ยังวางแผนให้ลูกชายไปรับคุณพ่อออกจาโรงพยาบาลเมื่อหายดีแล้ว "มันเร็วมากจริงๆ ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ยังคุยกับลูกชายว่าจะให้ไปรับคุณพ่อออกจากโรงพยาบาลเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว แต่กลับต้องพบเรื่องไม่คาดคิดแบบนี้ รู้สึกใจหายมากเพราะยังไม่ได้ล่ำลากันเลย ที่ผ่านมาพี่แต๊กเป็นคนดี เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี ไม่เคยขาดตกบกพร่องในเรื่องใดเลย อีกทั้งยังทุ่มเททำงานจนได้รับการยอมรับจากแฟนฟุตบอลทั้งประเทศ สำหรับเรื่องครอบครัวนั้นตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีฝ่ายใดยื่นมือเข้าช่วยเหลือบ้างไม่ว่าจะเป็นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือสโมสรเพื่อนตำรวจ เนื่องจากส่วนตัวเองก็ยังรู้สึกตั้งตัวไม่ทันเช่นกัน"

นายพิเชษ มั่นคง อดีตประธานสโมสรการท่าเรือ FC

     
        ด้าน "น้องบอล" วรรณพล ปุษปาคม บุตรชายวัย 22 ปีของ ยอดโค้ชรายนี้กล่าวกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า "รู้สึกเสียใจมากต่อจากการจากไปของคุณพ่อ อย่างไรก็ตามจะพยายามเดินตามรอยเท้า เพื่อว่าวันหนึ่งจะได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับคุณพ่อต่อไป"
     

ร่วมไว้อาลัยให้กับนาย อรรถพล ปุษปาคม หรือโค้ชแต๊ก

        นอกจากนี้ "เดอะ ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่อดีตเคยไปค้าแข้งใน มาเลเซีย เผยด้วยว่าได้รับโทรศัพท์จาก เตงกู อับดุลลาห์ สุลต่านแห่งปาหัง แสดงความเสียใจต่อครอบครัว "ปุษปาคม" ต่อการจากไปของ "โค้ชแต๊ก" ในครั้งนี้ และประสงค์จะมาร่วมงานอีกด้วย
     

นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าส FC

        ขณะที่ "เสี่ยบิ๊ก" ประธานบริหารทีม เพื่อนตำรวจ ยืนยันว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล และจะดูแลครอบครัว "โค้ชแต๊ก" เป็นอย่างดี "ค่ารักษาอาการป่วยของโค้ชแต๊ก รวมเบ็ดเสร็จกว่า 1 ล้านบาท ผมเป็นคนดูแลทุกอย่าง อีกทั้งเรื่องครอบครัวของเขาผมก็จะดูแลต่อไปให้ดี ส่วนเรื่องที่ลูกชายของโค้ชยังไม่มีสโมสรสังกัด ตอนนี้ขอดูรายละเอียดก่อนแล้วกัน สำหรับผมแล้วผู้ชายคนนี้ถือเป็น "นักเลงฟุตบอล" ตัวจริง ด้วยบุคลิกพูดน้อยต่อยหนัก ทำงานหนักมากกว่าชอบพูด ผลงานมากมายที่ผ่านมายืนยันว่านี่คือยอดโค้ชของเมืองไทย"
     

นายชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย

        "ก่อนที่โค้ชจะเสียชีวิต ผมเข้าไปคุยกับเขาแล้ว บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงผมจะพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ แลไม่ใช่แค่ที่ 2 หรือที่ 3 หากแต่ต้องเป็นแชมป์ยามาฮ่าลีกวันเท่านั้น ส่วนเรื่องโค้ชคนใหม่นั้นยังไม่มีการทาบทามใครในตอนนี้ ปล่อยให้ทีมงานเป็นผู้ดูแล และเราจะเดินหน้าแข่งขันต่อไปตามปกติ" นายใหญ่ทีม เพื่อนตำรวจกล่าว
     

ร่วมไว้อาลัย

        ในส่วนของ "ลีซอ" กัปตันทีม เพื่อนตำรวจ เผยไม่อยากให้โค้ชมาคุมทีมที่สงขลาตั้งแต่แรกแล้ว "ผมทราบว่าโค้ชป่วยหนัก แต่ด้วยความที่เป็นคนทุ่มเท ก็ยังเดินทางมาถึงสงขลา หากว่าเลือกได้ผมคงบอกไปว่าอย่าต้องลำบากเดินทางไกลมาคุมทีมเลย ห่วงสุขภาพโค้ชมาก แต่เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว อยากบอกให้โค้ชพักให้สบาย ต่อจากนี้ทุกคนในทีมจะร่วมแรงร่วมใจกันสู้ต่อไป การสูญเสียโค้ชอาจมีผลเรื่องสภาพจิตใจบ้าง แต่ก็เชื่อว่าลูกทีมทุกคนจะผ่านเรื่องราวดังกล่าวไปได้"
     
        ขณะที่ "โค้ชหรั่ง" อดีตกุนซือทีมชาติไทย ยอมรับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญของวงการฟุตบอลไทย "แต๊กเป็นคนมีความสามารถมาก ถือเป็นโค้ชที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ เวลาทำหน้าที่ในสนามควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก เป็นที่ยอมรับของคนในวงการกีฬา เป็นตัวอย่างที่ดีที่ควรนำไปเป็นแบบอย่าง น่าเสียดายที่เขาจากเราไปเร็วมาก"
     
        ทั้งนี้งานศพ "โค้ชแต๊ก" จะมีเจ้าภาพจัดงานประกอบด้วย วันที่ 16 เมษายน สโมสรเพื่อนตำรวจ, วันที่ 17 เมษายน สโมสรเพื่อนตำรวจ และ บางกอกกล๊าส เอฟซี, วันที่ 18 ครอบครัว ปุษปาคม, วันที่ 19 เมษายน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, วันที่ 20 เมษายน การท่าเรือแห่งประเทศไทย ส่วนการฌาปนกิจกำหนดในวันที่ 21 เมษายนนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น.
     
        สำหรับ อรรถพล ปุษปาคม เกิดวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2505 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เคยค้าแข้งตำแหน่งมิดฟิลด์ กับ การท่าเรือไทย ,ปาหัง เอฟซี และตลาดหลักทรัพย์ ติดธง “ช้างศึก” ทั้งหมด 85 นัด ยิง 13 ประตู ก่อนประเดิมบทบาทโค้ชกับ บีอีซี เทโรศาสน, เกลัง ยูไนเต็ด, ธนาคารกรุงไทย, ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ฯ, บางกอกกลาส และ เพื่อนตำรวจ

โค้ชแต๊ก หรือ นายอรรถพล ปุษปาคม ยอดคนลูกหนังไทย

CR : ASTV