หาเงินจาก พรีเมียร์ลีก ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ |
เมื่อเร็วๆนี้ พรีเมียร์ลีก ประกาศผลการประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเฉพาะในประเทศ ที่สกายและบีที สปอร์ต คว้าไปด้วยวงเงินกว่า 5,000 ล้านปอนด์ (250,000 ล้านบาท) ระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
พรีเมียร์ลีก บอกว่า จะแบ่งเงินอย่างน้อย 1,000 ล้านปอนด์ ให้ทีมลีกล่าง และฟุตบอลระดับรากหญ้าในอังกฤษด้วย
ตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าวยังไม่รวมการถ่ายทอดสดในแต่ละประเทศทั่วโลก บ่งชี้ถึงความนิยมสูงสุด แม้จะไม่ใช่ลีกที่ดีสุดในเชิงลูกหนังก็ตาม
ลา ลีกา สเปน ก็มีแต่บาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด ที่ทำเงิน ส่วนบอลอิตาลีอาการหนักจากกรณีของสโมสรปาร์มาที่ล้มละลาย และทีมยักษ์ใหญ่ระดับตำนานเอซี มิลาน ก็มีแต่ข่าวจ่อขายทีมเป็นระยะ
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบทพิสูจน์
ว่า ทีมระดับกลางๆไปจนถึงท้ายตารางพรีเมียร์ลีก ก็สามารถทำกำไรได้ ไม่ใช่มีแต่ทีมยักษ์ใหญ่ที่โกยเงินอยู่ฝ่ายเดียว
"สาลิกาดง" นิวคาสเซิล เผยผลประกอบการจากฤดูกาล 2013-14 ทำกำไรเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ราว 19 ล้านปอนด์ ถือเป็นสถิติกำไรสูงสุด ถึงจะมีหนี้สินสะสมอยู่ 129 ล้านปอนด์ แต่ก็เป็นเงินกู้จากไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมที่ปล่อยให้แบบไม่มีดอกเบี้ย
"นักบุญ" เซาแธมป์ตัน ก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่ทำกำไรได้ 33.4 ล้านปอนด์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้องเข้ารับการฟื้นฟูกิจการเมื่อปี 2009 ปัจจัยสำคัญคือ รายได้จากลิขสิทธิ์ทีวี 106 ล้านปอนด์
ตัวเลขกำไรของเซาแธมป์ตันยังไม่รวมการขายอดัม ลัลลานา, เดยัน ลอฟเรน, ริกกี้ แลมเบิร์ต และคาลัม แชมเบอร์ส ในฤดูกาลนี้ ดูแล้วอนาคตการเงินของนักบุญสดใสมาก
ทีมล่าสุดที่โชว์ตัวเลขมีกำไร คือ คริสตัล พาเลซ (23 ล้านปอนด์) เทียบกับช่วงที่เล่นในแชมเปียนชิพก่อนขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีก
เมื่อปี 2013 ช่วงนั้นได้กำไรแค่ 3.5 ล้านปอนด์ เฉพาะลิขสิทธิ์ทีวีในพรีเมียร์ลีกรับไปถึง 74 ล้านปอนด์
ไม่บ่อยครั้งนักที่ได้เห็นทีมระดับนี้มีกำไรถ้วนหน้า ทีมใหญ่ในลีกอื่นๆ มีคนพร้อมเทกโอเวอร์อยู่ตลอด แต่ทีมเล็กขายลำบากเมื่อเทียบกับพรีเมียร์ลีก
ใครเป็นเจ้าของทีมบอลในอังกฤษแล้วได้เล่นในพรีเมียร์ลีก โอกาสเจ็บตัวน้อยครับ
CR : http://www.thairath.co.th/content/491172
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น