เถ้าแก่น้อย เล็งขายไอพีไอ 80 ล้านหุ้น |
"เถ้าแก่น้อย" ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายไอพีโอ 80 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมี บล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 เนื่องจากบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น โดยเป็นหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ เสนอขาย 45 ล้านหุ้น และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเสนอขาย 35 ล้านหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เป็นปรึกษาทางการเงิน
โดยวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ (สวนอุตสาหกรรมโรจนะ) ลงทุนซื้อเครื่องจักรในสายการผลิตใหม่ และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET)
บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูป ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ เอง โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งตามกรรมวิธีการผลิตได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ สาหร่ายทอด สาหร่ายเทมปุระ สาหร่ายอบ และสาหร่ายย่าง
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดปี 2557 มีสินทรัพย์รวม 1,276.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 924.12 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 352.58 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 2,726.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 198.58 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 300,000,000 บาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว จำนวน 255,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 255,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ภายหลังจากการนำเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน จำนวน 80,000,000 หุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่ากับ 300,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 29 ธ.ค.2557 ประกอบด้วย นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ถือหุ้น 115.50 ล้านหุ้น (45.29%) หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดการถือหุ้นลงเหลือ 91 ล้านหุ้น (30.33%) บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 90 ล้านหุ้น (35.29%) หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 30% ถือหุ้น 90 ล้านหุ้น
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษี และเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น (ถ้ามี)
CR : ASTV
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น