วันนี้ได้มีโอกาสไปเดินชม แอบขอไฮโซกับเค้าบ้าง ซึ่งจะว่าไปก็มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างเหมือนกันนะ
:: รู้จักกับ Central Embassy ::
- ที่ดินบริเวณนี้เดิมเป็นสถานทูตอังกฤษ ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลประมูลมาได้ ชื่อก็เลยตั้งเป็น Central Embassy นั่นแล
- เนื่องจากอยู่ติดกับ Central ชิดลม และก็ไม่ไกลจาก Central World ซึ่งก็มีร้านค้าเยอะอยู่แล้ว พอทำห้างใหม่เลยเน้นฉีกแนวมาทำเป็นห้างหรู พร้อมโรงแรม 5 ดาวไปเลย
- หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Central ชิดลมถือเป็นห้างที่คนเดินมีกำลังซื้อสูงมาก ใช้จ่ายต่อหัวเกือบจะสูงที่สุดในห้างไทย
- ตอนนี้เปิดแต่ส่วนห้างก่อน ส่วนของโรงแรมด้านบนตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ จะเปิดปี 2558
- คู่แข่งโดยตรงของ Central Embassy คือกลุ่มห้างระดับหรูอย่าง Gaysorn Plaza, Emporium
- ห้างอยู่ติดกับ Central ชิดลม แต่ถ้าจะเดินทางมา แนะนำลง BTS เพลินจิตจะใกล้ที่สุด มีทางเชื่อมเข้าห้างเลย
- ตัวห้างออกแบบเป็นรูป Infinity โค้งไปมา ขนาดห้างไม่ใหญ่มาก มี 6 ชั้น ระดับความใหญ่ใกล้เคียงกับ Terminal 21
- ถือว่าเป็นโครงการที่ใช้งบลงทุนต่อพื้นที่สูงที่สุดในไทย
พาเดิน Central Embassy
เดินทางมาง่ายที่สุดคือลง BTS เพลินจิต จะมีทางเชื่อมมาที่ห้างเลย เดินแค่ 100
เมตรก็ถึง
ตัวห้างสร้างพร้อมใช้แล้ว แต่โรงแรมด้านบนกำลังสร้างอยู่
พอเดินเข้ามาเท่านั้นแหล่ะ โอ้โห !! สวยมาก ตกแต่งทั้งห้างเป็นสีขาว
พื้นดูเนียน ทางเดินใหญ่ กว้าง ไม่มีร้านค้าอะไรคั่นตรงทางเดินเลย
คือให้ความรู้สึกว่าหรูหรา ดูดี
ดัวห้างทำเป็นรูป Infinity พอมองช่องตรงกลางเลยดูซ้อนๆ กัน สวยไปอีกแบบ
ห้างเพิ่งเปิด มีร้านจองพื้นที่ครบแล้ว แต่เปิดให้บริการจริงๆ แค่ประมาณ 60%
ยังมีร่องรอยการตกแต่ง กลิ่นสียังอยู่ ใครอยากมาเดินแบบเต็มรูปแบบรอซัก 1-2
เดือนน่าจะโอเค
มีทางเชื่อมไปที่ Central ชิดลมด้วย ใครที่รู้สึกเขย่งขาเดินที่ Embassy
ไม่ไหวก็กลับสู่โลกมนุษย์ได้จ้า #ฮา
พื้นที่หลักคือแบรนด์หรูระดับไฮโซ
พื้นที่ร้านค้าที่เน้นมากที่สุดใน Central Embassy
คือสินค้าแบรนด์เนม(โคตร)หรู คือมีเยอะมาก ใหญ่มากด้วย
ร้านทุกร้านตกแต่งแบบระดับ Flagship Store คือเป็นร้านต้นแบบได้เลย อย่าง
Prada ใหญ่ 2 ชั้นเลยทีเดียว
Gucci ก็มี 2 ชั้น วันนี้มีงานเปิดตัวด้วย ช่วงเย็นดาราเพียบ
MIU MIU หรือที่หลายคนเรียก กาเบกาเบ ก็เพิ่งมาเปิดที่นี่
Vivienne Westwood
Michael Kors หน้าร้านสวย แต่ยังไม่เปิด
รองเท้าญี่ปุ่นชื่อดัง Onitsuka Tiger ร้านใหญ่กว่าที่อื่น ซื้อช่วงเปิดตัวลด
10% ทั้งร้าน
สินค้าบริการทั่วไป ตกแต่งอย่างไฮโซ
นอกจากสินค้าแบรนด์เนมแล้ว ก็มีร้านค้าทั่วไปด้วยนะ
ซึ่งแต่ละร้านก็แข่งกันตกแต่งให้เป็นระดับหรูขึ้นไปจากเดิมอีก ก็แปลกตาดีนะ
TrueMove-H เปิดร้านโคตรใหญ่ คือข้างในมีครบเลยทั้งขายมือถือ, อุปกรณ์ไอที,
จ่ายค่าบริการ, บริการหลังการขาย, True Coffee
เข้าไปแล้วจะรู้สึกเลยว่ามันใหญ่มากๆ
iStudio by Copperwired สาขานี้ก็แตกต่างจากทุกสาขา คือใช้โต๊ะสีขาวล้วน
จากปกติที่จะเป็นโต๊ะไม้ สอบถามกับพนักงาน
บอกว่านี่คือโต๊ะที่แอปเปิลเป็นคนแนะนำและจัดส่งเข้ามาเองเลย
ธนาคารกรุงเทพ ดูข้างนอกนึกว่าร้านขายเพชร คือสวยหรูมาก เข้าไปฝากถอน
เปิดบัญชีอะไรได้ตามปกตินะ แต่อีกครึ่งหนึ่งจะเป็น Exclusive Lounge
เฉพาะผู้ถือบัตรทองเท่านั้น ขอเข้าไปดูข้างใน บอกได้เลยว่าหรูมาก
(ข้างในห้ามถ่ายรูป)
KBank ก็ตกแต่งสวยนะ มี Exclusive Lounge เหมือนกัน
แต่ผมว่าของกรุงเทพสวยกว่า
Starbucks ที่นี่ถือว่าแตกต่างจากทุกที่เลย คือตกแต่งแนวอเมริกันคลาสสิค
ข้างในชิวมาก ที่นั่งเยอะ และกว้าง มีช่องเสียบปลั๊กไฟแทบทุกโต๊ะ
ช่วงนี้มีโปรซื้อครบ 600 บาทแถมแก้วฟรี 1 ใบด้วย
ร้านอาหาร เน้นแบรนด์จากต่างประเทศ
Central Embassy เน้นลูกค้าระดับไฮเอนด์ เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ได้เห็นร้านอย่าง
KFC หรือ Mc Donald แน่นอนจ้า
Chikalicious ร้านเค้กชื่อดังจากนิวยอร์ค เปิดในไทยที่นี่สาขาแรก
คนมาทดลองชิมเยอะมากๆ
Audrey ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ชอบตกแต่งร้านนี้มาก สวยยยยย
Dean and Deluca ร้านอาหารอเมริกันแบบดั้งเดิม ข้างในร้านใหญ่มากๆ ทำกันสดๆ
ให้ดูเลยด้วย
Harrods ห้างดังจากอังกฤษ มีขายชา แล้วก็ขนมด้วยนะ
คนต่อคิวซื้อขนมเยอะเหมือนกัน
Kyo by kyo Roll En ร้านขนมจากญี่ปุ่น คนเยอะมากเหมือนกัน
ไฮไลท์อยู่ที่เค้กโรลของเขาเมพสุดๆ
The Girl & the Pig ร้านอาหารแนวออแกนิค
EAT Thai ศูนย์อาหารอยู่ชั้นใต้ดิน เป็นจุดที่ผมชอบที่สุดแล้วใน Central
Embassy คือที่นี่ตกแต่งแบบไทยๆ น่ารักๆ แต่แฝงความโมเดิร์นในตัว
วิธีใช้บริการคล้าย Food Loft คือรับการ์ดด้านหน้า มีมูลค่า 1,000 บาท
แล้วก็ไปซื้อตามร้านที่เราสั่ง ตอนออกก็ยื่นบัตรให้พนักงาน จ่ายตังค์ทีเดียว
(จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้)
ที่นั่งมีหลายแบบ ทั้งวงกลาม หรือแบบโต๊ะสี่เหลี่ยม
ตกแต่งความเป็นไทยตลอดทุกมุม
เมนูอาหารเขียนบนกระจก เท่ห์ไหมล่ะ
อาหารแบบไทยๆ มีครบมาก ทั้งส้มตำ, ข้าวตามสั่ง, ขนมจีน, ไส้อั่ว, หมูปิ้ง,
ผัดไทย, ไก่ย่าง, โรตี, ชาชัก ฯลฯ
มีมุมที่เป็นรถเข็นด้วยนะ จะเป็นร้านชื่อดังมาเปิดขาย
มีโชว์แกะสลักผลไม้ ร้อยมาลัยด้วย
ครกตำส้มตำ เหนื่อยไหมล่ะนั่น
นอกจากอาหารแล้วก็มีขนมไทย ผัก ผลไม้ไทยขายด้านใน
ทดลองชิมชาชัก แก้วละ 40 บาท ข้าวขาหมูใส่ไข่ 85 บาท ตอนออกจ่ายตังค์
มีชาร์จค่าบริการอีก 7% ก็ถือว่าแพงอยู่ แต่ก็อร่อยจริงนะ คุณภาพดีเลย
เจอน้องแย้มาทำรายการพอดี
ส่วนอื่นๆ
ห้องน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ตกแต่งหรูหราสวยงาม
ไฮไลท์คือโถนั่งที่เป็นแบบญี่ปุ่น คือใช้ระบบอัตโนมัติ นั่งแล้วอุ่นๆ
กดให้น้ำฉีดเองได้ เป่าลมให้ด้วย เหมือนกับที่ Terminal 21 แต่เท่าที่ลองของ
Embassy คุณภาพดีกว่า
จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อมาคิด 30 บาท/ชั่วโมง ถ้าจะจอดฟรี 4
ชั่วโมงก็ต้องซื้อ 800 บาทขึ้นไป
โรงหนังยังไม่เปิด ได้ยินว่าจะเปิดเดือนหน้า แต่ก็คงไม่ได้ไปใช้กันเท่าไหร่
เพราะที่นี่เป็นโรงหนังแบบ Diplomat Screen ค่าบัตรที่คอนเฟิร์มมาถูกสุด 1,000 -
1,500 บาท !! คือมีอาหารเสิร์ฟด้วย อารมณ์ประมาณ Enigma ที่พารากอน
:: สรุป ::
- เป็นห้างสำหรับกลุ่มระดับไฮโซขึ้นไป ถ้าพนักงานออฟฟิศรายได้ปานกลางอย่างเราๆ ท่านๆ มาเดิน จะมีพื้นที่ใช้บริการได้ไม่ถึงครึ่ง
- เดินทางสะดวก ใกล้ BTS, ลงทางด่วนก็มาได้ แต่รถค่อนข้างติด
- สวย หรูหรา ตกแต่งเนี๊ยบ แบบที่พารากอนชิดซ้าย Emporium หลบมุมเลย
- ร้านที่ให้บริการตกแต่งดีมากทุกร้าน ที่น่าสนใจคือร้านอาหารหลากหลาย เน้นชิคๆ ชิวๆ
- Eat Thai ศูนย์อาหารด้านล่างเจ๋งมาก ขอแนะนำ
- วัยรุ่นอาจจะไม่ค่อยชอบที่นี่เท่าไหร่ แต่คนทำงาน ผู้ใหญ่ ไฮโซทั้งหลายจะกรี๊ดมาก
- ร้านยังเปิดไม่หมด ห้างยังใหม่มาก รอเปิดเต็มรูปแบบกว่านี้ในอีกซัก 1-2 เดือนค่อยมาก็ได้
- แต่สำหรับใครที่กลัวตกเทรนด์ ก็แวะมา Check-in ซักรอบ Selfie ซัก 2-3 ใบ แค่นี้ก็กลับบ้านนอนหลับฝันดีแล้วจ้า
CR : http://www.khajochi.com/2014/05/review-central-embassy.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น